วันเอดส์โลก | Equalize

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 เป็นวันเอดส์โลกครั้งที่ 35 UNAIDS ยืนยันว่าธีมของวันเอดส์โลก 2565 คือ "สร้างความเท่าเทียม"ประเด็นหลักคือการปรับปรุงคุณภาพการป้องกันและการรักษาโรคเอดส์ สนับสนุนให้สังคมโดยรวมตอบสนองต่อความเสี่ยงของการติดเชื้อเอดส์อย่างแข็งขัน และร่วมกันสร้างและแบ่งปันสภาพแวดล้อมทางสังคมที่มีสุขภาพดี

จากข้อมูลของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ณ ปี พ.ศ. 2564 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ทั่วโลก 1.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับเอดส์ 650,000 คน การระบาดใหญ่ของโรคเอดส์จะทำให้มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 1 คนต่อนาที

01 โรคเอดส์ คืออะไร?

โรคเอดส์ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง" เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีลิมโฟไซต์จำนวนมาก และทำให้ร่างกายสูญเสียภูมิคุ้มกัน เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีลิมโฟไซต์เป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ เอดส์ทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ และเพิ่มโอกาสในการเกิดเนื้องอกร้าย เนื่องจากเซลล์ทีของผู้ป่วยถูกทำลายและภูมิคุ้มกันต่ำมาก ปัจจุบันยังไม่มียารักษาการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งหมายความว่าโรคเอดส์ยังไม่มียารักษาให้หายขาด

02 อาการติดเชื้อ HIV

อาการหลักของการติดเชื้อเอดส์ ได้แก่ มีไข้เรื้อรัง อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกายอย่างต่อเนื่อง และน้ำหนักลดมากกว่า 10% ใน 6 เดือน ผู้ป่วยเอดส์ที่มีอาการอื่นๆ อาจทำให้เกิดอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก เป็นต้น อาการทางระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เป็นต้น อาการอื่นๆ ได้แก่ วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ไม่ตอบสนอง สติปัญญาเสื่อม เป็นต้น

03 เส้นทางการติดเชื้อเอดส์

การติดเชื้อ HIV มี 3 เส้นทางหลัก คือ การติดต่อทางเลือด การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการติดต่อจากแม่สู่ลูก

(1) การติดต่อทางเลือด: การติดต่อทางเลือดเป็นช่องทางการติดเชื้อโดยตรงที่สุด ตัวอย่างเช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน บาดแผลสด การสัมผัสเลือดหรือผลิตภัณฑ์เลือดที่ปนเปื้อนเชื้อเอชไอวี การใช้อุปกรณ์ฉีดยาที่ปนเปื้อน การฝังเข็ม การถอนฟัน การสัก การเจาะหู เป็นต้น ภาวะเหล่านี้ล้วนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีทั้งสิ้น

(2) การติดต่อทางเพศสัมพันธ์: การติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นวิธีการติดเชื้อเอชไอวีที่พบบ่อยที่สุด การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนรักต่างเพศหรือคนรักเพศเดียวกันสามารถนำไปสู่การแพร่เชื้อเอชไอวีได้

(3) การแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก: แม่ที่ติดเชื้อ HIV จะแพร่เชื้อ HIV สู่ทารกในระหว่างตั้งครรภ์ คลอดบุตร หรือหลังคลอดให้นมบุตร

04 โซลูชั่น

Macro & Micro-Test มุ่งมั่นพัฒนาชุดตรวจโรคติดเชื้อที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง และได้พัฒนาชุดตรวจเอชไอวีเชิงปริมาณ (HII Quantitative Detection Kit หรือ Fluorescence PCR) ชุดตรวจนี้เหมาะสำหรับการตรวจหา RNA ของไวรัสเอชไอวีในตัวอย่างซีรัม/พลาสมา สามารถตรวจวัดระดับไวรัสเอชไอวีในเลือดของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีระหว่างการรักษา ชุดตรวจนี้เป็นเครื่องมือเสริมสำหรับการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ชื่อสินค้า ข้อมูลจำเพาะ
ชุดตรวจหาเชื้อ HIV เชิงปริมาณ (Fluorescence PCR) 50 ชุดทดสอบ/ชุด

ข้อดี

(1)ระบบนี้จะนำการควบคุมภายในมาใช้ ซึ่งสามารถตรวจสอบกระบวนการทดลองได้อย่างครอบคลุม และรับรองคุณภาพของ DNA เพื่อหลีกเลี่ยงผลลบปลอม

(2)โดยใช้การผสมผสานระหว่างการขยาย PCR และโพรบเรืองแสง

(3)ความไวสูง: LoD ของชุดคือ 100 IU/mL, LoQ ของชุดคือ 500 IU/mL

(4)ใช้ชุดทดสอบเพื่อทดสอบค่าอ้างอิงระดับชาติของ HIV ที่เจือจาง โดยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เชิงเส้น (r) จะต้องไม่น้อยกว่า 0.98

(5)ค่าเบี่ยงเบนสัมบูรณ์ของผลการตรวจจับ (lg IU/mL) ของความแม่นยำไม่ควรเกิน ±0.5

(6)ความจำเพาะสูง: ไม่มีปฏิกิริยาร่วมกับไวรัสหรือตัวอย่างแบคทีเรียอื่น ๆ เช่น ไซโตเมกะโลไวรัสของมนุษย์ ไวรัส EB ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์ ไวรัสตับอักเสบ B ไวรัสตับอักเสบ A ซิฟิลิส ไวรัสเริมชนิดที่ 1 ไวรัสเริมชนิดที่ 2 ไวรัสไข้หวัดใหญ่ A สแตฟิโลค็อกคัสออเรียส แคนดิดาอัลบิแคนส์ ฯลฯ


เวลาโพสต์: 1 ธ.ค. 2565