ไมโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส กรดนิวคลีอิกและไรแฟมพิซิน (RIF) ความต้านทาน (INH)

คำอธิบายสั้น ๆ :

ชุดทดสอบนี้ใช้สำหรับการตรวจหาคุณภาพ DNA ของเชื้อ Mycobacterium tuberculosis ในเสมหะของมนุษย์ เชื้อเพาะเลี้ยงแบบของแข็ง (LJ Medium) และเชื้อเพาะเลี้ยงแบบของเหลว (MGIT Medium) ของเหลวล้างหลอดลม และการกลายพันธุ์ในบริเวณโคดอนกรดอะมิโน 507-533 (81bp, บริเวณที่กำหนดความต้านทานต่อไรแฟมพิซิน) ของยีน rpoB ของการดื้อต่อไรแฟมพิซินของเชื้อ Mycobacterium tuberculosis รวมถึงการกลายพันธุ์ในตำแหน่งกลายพันธุ์หลักของการดื้อต่อไอโซไนอะซิดของเชื้อ Mycobacterium tuberculosis ชุดทดสอบนี้ช่วยในการวินิจฉัยการติดเชื้อ Mycobacterium tuberculosis และตรวจหายีนที่ดื้อต่อยาหลักของไรแฟมพิซินและไอโซไนอะซิด ซึ่งช่วยให้เข้าใจการดื้อต่อยาของเชื้อ Mycobacterium tuberculosis ที่ผู้ป่วยติดเชื้อได้


รายละเอียดสินค้า

แท็กสินค้า

ชื่อสินค้า

ชุดตรวจหาเชื้อ Mycobacterium Tuberculosis กรดนิวคลีอิกและริแฟมพิซิน (RIF) HWTS-RT147 (INH) (เส้นโค้งการหลอมละลาย)

ระบาดวิทยา

Mycobacterium tuberculosis หรือเรียกสั้นๆ ว่า Tubercle bacillus (TB) เป็นแบคทีเรียก่อโรคที่ทำให้เกิดวัณโรค และในปัจจุบันยาต้านวัณโรคกลุ่มแรกที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ ไอโซไนอะซิด ริแฟมพิซิน และเอทัมบูทอล เป็นต้น[1]อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการใช้ยาต้านวัณโรคอย่างไม่ถูกต้องและลักษณะโครงสร้างผนังเซลล์ของเชื้อไมโคแบคทีเรียมทูเบอร์คูโลซิสเอง เชื้อไมโคแบคทีเรียมทูเบอร์คูโลซิสจึงพัฒนาความต้านทานต่อยาต้านวัณโรค และรูปแบบที่อันตรายเป็นพิเศษคือวัณโรคดื้อยาหลายขนาน (MDR-TB) ซึ่งดื้อต่อยาสองชนิดที่พบบ่อยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ ริแฟมพิซินและไอโซไนอะซิด[2].

ปัญหาการดื้อยาสำหรับวัณโรคมีอยู่ในทุกประเทศที่ WHO สำรวจ เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาผู้ป่วยวัณโรคได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตรวจหาการดื้อยาต้านวัณโรค โดยเฉพาะการดื้อยาไรแฟมพิซิน ซึ่งได้กลายเป็นขั้นตอนการวินิจฉัยที่ WHO แนะนำในการรักษาวัณโรค[3]แม้ว่าการค้นพบการดื้อยาไรแฟมพิซินจะเทียบเท่ากับการค้นพบวัณโรคดื้อยาหลายขนาน (MDR-TB) แต่การตรวจพบการดื้อยาไรแฟมพิซินเพียงอย่างเดียวกลับไม่คำนึงถึงผู้ป่วยที่มีภาวะดื้อยา INH เพียงอย่างเดียว (หมายถึงการดื้อยาไอโซไนอะซิดแต่ไวต่อไรแฟมพิซิน) และไรแฟมพิซินเพียงอย่างเดียว (ไวต่อไอโซไนอะซิดแต่ดื้อยาไรแฟมพิซิน) ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาเบื้องต้นที่ไม่สมเหตุสมผล ดังนั้น การทดสอบการดื้อยาไอโซไนอะซิดและไรแฟมพิซินจึงเป็นข้อกำหนดขั้นต่ำที่จำเป็นในโครงการควบคุมวัณโรคดื้อยาทุกโครงการ[4].

พารามิเตอร์ทางเทคนิค

พื้นที่จัดเก็บ

≤-18℃

อายุการเก็บรักษา 12 เดือน
ชนิดของตัวอย่าง ตัวอย่างเสมหะ, การเพาะเชื้อแบบแข็ง (LJ Medium), การเพาะเชื้อแบบของเหลว (MGIT Medium)
CV <5.0%
ล็อด ค่า LoD ของชุดตรวจหาเชื้อ Mycobacterium tuberculosis คือ 10 แบคทีเรีย/มล.ค่า LoD ของชุดตรวจหาริแฟมพิซินชนิดป่าและชนิดกลายพันธุ์คือ 150 แบคทีเรีย/มล.

ค่า LoD ของชุดตรวจหาไอโซไนอาซิดชนิดป่าและชนิดกลายพันธุ์คือ 200 แบคทีเรีย/มล.

ความเฉพาะเจาะจง

1) ไม่มีปฏิกิริยาไขว้เมื่อใช้ชุดทดสอบเพื่อตรวจหา DNA จีโนมของมนุษย์ (500ng) เชื้อก่อโรคทางเดินหายใจอีก 28 ชนิด และเชื้อไมโคแบคทีเรียที่ไม่ใช่เชื้อวัณโรค 29 ชนิด (ดังที่แสดงในตารางที่ 3)2) ไม่มีปฏิกิริยาไขว้เมื่อใช้ชุดตรวจหาตำแหน่งกลายพันธุ์ของยีนที่ดื้อยาอื่นๆ ของเชื้อ Mycobacterium tuberculosis ที่ไวต่อริแฟมพิซินและไอโซไนอาซิด (ดังที่แสดงในตารางที่ 4)3) สารรบกวนที่พบบ่อยในตัวอย่างที่จะทดสอบ เช่น ริแฟมพิซิน (9 มก./ล.) ไอโซไนอะซิด (12 มก./ล.) เอทัมบูทอล (8 มก./ล.) อะม็อกซิลลิน (11 มก./ล.) ออกซิเมตาโซลีน (1 มก./ล.) มูพิโรซิน (20 มก./ล.) ไพราซินาไมด์ (45 มก./ล.) ซานามิเวียร์ (0.5 มก./ล.) เด็กซาเมทาโซน (20 มก./ล.) ยาอื่นๆ ไม่มีผลต่อผลการทดสอบในชุดทดสอบ
 เครื่องมือที่ใช้ได้ ระบบ PCR แบบเรียลไทม์ SLAN-96P (บริษัท ฮงชิ เมดิคอล เทคโนโลยี จำกัด)

ระบบ BioRad CFX96 Real-Time PCR

โซลูชั่น PCR แบบครบวงจร


  • ก่อนหน้า:
  • ต่อไป:

  • เขียนข้อความของคุณที่นี่และส่งถึงเรา